วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บทที่3 คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์


บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์
 ความหมายของฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์ หมายถึง ส่วนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ เช่น ตัวเครื่อง จอภาพ คีย์บอร์ด และเมาส์ เป็นต้น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยทั่วไปจะมีฮาร์ดแวร์หลัก ๆ ได้แก่ ตัวเครื่อง (Case) ทำหน้าที่ในส่วนของการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาจากอุปกรณ์นำเข้าต่างๆ ซึ่งภายในตัวเครื่องจะมีอุปกรณ์หลัก ได้แก่ แผงวงจรหลัก หม้อแปลงไฟฟ้า ซีพียู ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจำ การ์ดแสดงผล การ์ดเสียง เป็นต้น
จอภาพ (Monitor) ทำหน้าที่แสดงผลข้อความ รูปภาพ
ดิสก์ไดร์ฟ (Disk drive) เป็นอุปกรณ์อ่าน-เขียนข้อมูลบนดิสก์เก็ต
คีย์บอร์ด (Keyboard) ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
เมาส์ (Mouse) เป็นส่วนที่ใช้สั่งงานด้วยการชี้และเลือกสิ่งต่างๆที่แสดงอยู่บนจอภาพ
ลำโพง (Speaker) เป็นส่วนที่ใช้แสดงผลที่เป็นเสียง
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 
จำแนกตามหน้าที่ของฮาร์ดแวร์สามารถแบ่งเป็นส่วนสำคัญ 5 ส่วน คือ
1) หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ทำหน้าที่รับโปรแกรมคำสั่ง และข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
2) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit - CPU) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศาสตร์ รวมทั้งการประมวลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
3) หน่วยความจำ (Memory Unit) ทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งที่ส่งมาจากหน่วยรับข้อมูล เพื่อเตรียมส่งไปประมวลผลยังหน่วยประมวลผลกลาง และเก็บผลลัพธ์ที่ได้มาจากการประมวลผลแล้วเพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล
4) หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทำหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล หรือผ่านการคำนวณแล้ว
5) อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ (Peripheral Equipment) เป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น เช่น โมเด็ม แผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย เป็นต้น
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) 
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยรับข้อมูลมีหลากหลายอุปกรณ์ ได้แก่
1) คีย์บอร์ด (Keyboard) อุปกรณ์รับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทำการเปลี่ยนเป็นรหัส เพื่อบอกให้คอมพิวเตอร์รู้ว่ามีการกดตัวอักษรอะไร แผงแป้นอักขระส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานของเครื่องพิมพ์ดีด ซึ่งระบบรับรหัสตัวอักขระที่ใช้ในทางคอมพิวเตอร์เป็นรหัส 7 หรือ 8 บิต (Operator)
2) เมาส์ (Mouse) อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลโดยการเลื่อนเมาส์เพื่อบังคับตัวชี้ไปยังตำแหน่งต่างๆ บนหน้าจอ เมาส์ที่นิยมใช้มีด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก
- แบบทางกล (Mechanical) ใช้ลูกกลิ้งกลม
- แบบใช้แสง (Optical mouse)
- แบบไร้สาย (Wireless Mouse)
3) OCR (Optical Character Reader) อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล โดยใช้วิธีการอ่านข้อมูลด้วยลำแสงในลักษณะพาดขวางบนเอกสารที่มีข้อมูลอยู่ แล้วแปลงรหัสเป็นสัญญาณไฟฟ้าเข้าไปเก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โอซีอาร์ที่เราสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ เครื่องอ่านรหัสแท่ง (Barcode reader)
4) OMR (Optical Mark Reader) อุปกรณ์นำเข้าที่ทำงานโดยการอ่านข้อมูลจากการทำเครื่องหมายด้วยดินสอ และปากกาลงบนกระดาษคำตอบ (Answer sheet) ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ

5) เครื่องอ่านพิกัด (Digitizer) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูล มีลักษณะเป็นแผ่นกระดานสี่เหลี่ยม มีสายไฟฟ้าและอุปกรณ์คล้ายแว่นขยายที่มีเครื่องหมายกากบาทตรงกลาง พร้อมกับปุ่มสำหรับกด โดยปกติมักใช้ในการอ่านจุดพิกัดของแผนที่ หรือตำแหน่งของภาพกราฟิกต่างๆ
6) สแกนเนอร์ (Scanner) เป็นอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลที่เป็นเอกสาร รูปภาพ หรือ รูปถ่าย สแกนเนอร์สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ
- แบบเลื่อนกระดาษ (Sheet-Fed Scanner) สแกนเนอร์แบบนี้จะรับกระดาษแล้วค่อย ๆ เลื่อนหน้ากระดาษให้ผ่านหัวสแกนซึ่งอยู่กับที่
- แบบแท่นนอน (Flatbed scanner) สแกนเนอร์แบบนี้จะมีกลไกคล้ายกับเครื่องถ่ายเอกสาร เหมาะสำหรับใช้กับเอกสารทั้งที่เป็นแผ่นเดียวและเอกสารที่เป็นเล่ม
- แบบมือถือ (Hand-held Scanner) สแกนเนอร์แบบมือถือได้รวมเอาข้อดีของสแกนเนอร์ ทั้งสองแบบเข้าไว้ด้วยกัน
7) ปากกาแสง (Light Pen) เป็นอุปกรณ์ทำงานคล้ายกับเมาส์ในการติดต่อกับคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับงานวาดภาพ
8) จอยสติก (Joy Sticks) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมทิศทางของวัตถุบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่จะใช้ในการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ มีทั้งที่เป็นแบบแบน แบบคันโยก หรือ แบบพวงมาลัย
9) จอสัมผัส (Touch Screen) เป็นจอภาพชนิดพิเศษที่ใช้ระบบสัมผัสแทนการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ นิยมนำมาใช้กับงาน
10) เครื่องเทอร์มินัล (Point of Sale Terminal) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลอีกอย่างหนึ่งที่นิยมใช้ในร้านค้า เครื่องเทอร์มินัลนี้จะมีแป้นพิมพ์สำหรับกรอกข้อมูล มีจอภาพเล็กๆ เพื่อใช้แสดงผลต่างๆ และมีเครื่องพิมพ์สำหรับพิมพ์รายการ ทั้งนี้สามารถนำเครื่องอ่านรหัสบาร์โค๊ดเข้ามาช่วยในการรับข้อมูลได้ ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดอันอาจเกิดจากการกรอกข้อมูลที่มีจำนวนมาก
11) แผ่นสัมผัส (Touch Pads) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยการใช้นิ้วสัมผัสลงบนแผ่นสัมผัส น้ำหนักที่กดสงไปจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้า มักเห็นอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
12) กล้องดิจิทัล (Digital Camera) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถแปลงข้อมูลภาพเป็นสัญญาณดิจิทัล มีลักษณะการใช้งานเหมือนกล้องถ่ายภาพทั่วไป แต่ต่างกันตรงที่ไม่ต้องใช้ฟิล์มในการบันทึกข้อมูล ข้อมูลภาพที่ได้สามารถถ่ายลงสู่เครื่องคอมพิวเตอร์และสามารถเรียกดูได้ทันที หรือจะใช้โปรแกรมช่วยตกแต่งภาพให้ดูสวยงามขึ้นก็ได้

13) อุปกรณ์รับข้อมูลเสียง (Voice Input Devices) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไมโครโฟน เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลในรูปแบบเสียง โดยจะทำการแปลงสัญญาณเสียงเป็นสัญญาณดิจิทัลแล้วจึงส่งไปยังคอมพิวเตอร์
  หน่วยความจำ (Memory Unit)
เป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุด ซึ่งสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ
1) หน่วยความจำหลัก (Main Memory) หรือเรียกว่า หน่วยความจำภายใน (Internal Memory) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- รอม (Read Only Memory - ROM) เป็นหน่วยความจำที่มีโปรแกรมหรือข้อมูลอยู่แล้ว สามารถเรียกออกมาใช้งานได้แต่จะไม่สามารถเขียนเพิ่มเติมได้ และแม้ว่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงให้แก่ระบบข้อมูลก็ไม่สูญหายไป
- แรม (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่สามารถเก็บข้อมูลได้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้น เมื่อใดไม่มีกระแสไฟฟ้ามาเลี้ยงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำชนิดนี้จะหายไปทันที
2) หน่วยความจำรอง (Second Memory) หรือหน่วยความจำภายนอก (External Memory) เป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยสื่อบันทึกข้อมูลและอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลชนิดต่างๆ ได้แก่
- ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) เป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งโปรแกรมใช้งานต่างๆ ไฟล์เอกสาร รวมทั้งเป็นที่เก็บระบบปฏิบัติการที่เป็นโปรแกรมควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
- ฟล็อบปี้ดิสก์ (Floppy Disk) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาด 3.5 นิ้ว มีลักษณะเป็นแผ่นกลมบางทำจากไมลาร์ (Mylar) สามารถบรรจุข้อมูลได้เพียง 1.44 เมกะไบต์ เท่านั้น
- ซีดี (Compact Disk - CD) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบดิจิทัล เป็นสื่อที่มีขนาดความจุสูง เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ซีดีรอมทำมาจากแผ่นพลาสติกกลมบางที่เคลือบด้วยสารโพลีคาร์บอเนต (Poly Carbonate) ทำให้ผิวหน้าเป็นมันสะท้อนแสง โดยมีการบันทึกข้อมูลเป็นสายเดียว (Single Track) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 120 มิลลิเมตร ปัจจุบันมีซีดีอยู่หลายประเภท ได้แก่ ซีดีเพลง (Audio CD) วีซีดี (Video CD - VCD) ซีดี-อาร์ (CD Recordable - CD-R) ซีดี-อาร์ดับบลิว (CD-Rewritable - CD-RW) และ ดีวีดี (Digital Video Disk - DVD)
3) รีมูฟเอเบิลไดร์ฟ (Removable Drive) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ไม่ต้องมีตัวขับเคลื่อน (Drive) สามารถพกพาไปไหนได้โดยต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย Port USB ปัจจุบันความจุของรีมูฟเอเบิลไดร์ฟมีตั้งแต่ 8 , 16 , 32 , 64 , 128 จนถึง 1024 เมกะไบต์ ทั้งนี้ยังมีไดร์ฟลักษณะเดียวกัน เรียกในชื่ออื่นๆ ได้แก่ Pen Drive , Thump Drive , Flash Drive

4) ซิบไดร์ฟ (Zip Drive) เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่จะมาแทนแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ มีขนาดความจุ 100 เมกะไบต์ ซึ่งการใช้งานซิปไดร์ฟจะต้องใช้งานกับซิปดิสก์ (Zip Disk) ความสามารถในการเก็บข้อมูลของซิปดิสก์จะเก็บข้อมูลได้มากกว่าฟล็อปปี้ดิสก์
5) Magnetic optical Disk Drive เป็นสื่อเก็บข้อมูลขนาด 3.5 นิ้ว ซึ่งมีขนาดพอๆ กับฟล็อบปี้ดิสก์ แต่ขนาดความจุมากกว่า เพราะว่า MO Disk drive 1 แผ่นสามารถบันทึกขัอมูลได้ตั้งแต่ 128 เมกะไบต์ จนถึงระดับ 5.2 กิกะไบต์
6) เทปแบ็คอัพ (Tape Backup) เป็นอุปกรณ์สำหรับการสำรองข้อมูล ซึ่งเหมาะกับการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ ขนาดระดับ 10-100 กิกะไบต์
7) การ์ดเมมโมรี (Memory Card) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาดเล็ก พัฒนาขึ้น เพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์เทคโนโลยีแบบต่างๆ เช่น กล้องดิจิทัล คอมพิวเตอร์มือถือ (Personal Data Assistant - PDA) โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit - CPU)
หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป (chip) นับเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน เข้ามาทางอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการใช้งาน หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ
1) หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU) หน่วยคำนวณตรรกะ ทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องคำนวณอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำงานเกี่ยวกับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร อีกทั้งยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่เครื่องคำนวณธรรมดาไม่มี คือ ความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเงื่อนไข และกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้ได้คำตอบออกมาว่าเงื่อนไข นั้นเป็น จริง หรือ เท็จ ได้
2) หน่วยควบคุม (Control Unit) หน่วยควบคุม ทำหน้าที่ควบคุมลำดับขั้นตอนการประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจำสำรองด้วย ซีพียูที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ได้แก่ Pentium III , Pentium 4 , Pentium M (Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon
 หน่วยแสดงผล (Output Unit)
เป็นอุปกรณ์ส่งออก (Output device) ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์เมื่อซีพียูทำการประมวลผล
1) จอภาพ (Monitor) เป็นอุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ที่เป็นภาพ ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ จอภาพแบบ CRT (Cathode Ray Tube) และ จอภาพแบบ LCD (Liquid Crystal Display)
2) เครื่องพิมพ์ (Printer) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ในรูปของอักขระหรือรูปภาพที่จะไปปรากฏอยู่บนกระดาษ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดอตเมตทริกซ์ (Dot Matrix Printer) เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer) เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser Printer) และ พล็อตเตอร์ (Plotter)
3) ลำโพง (Speaker) เป็นอุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ที่อยู่ในรูปของเสียง สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านแผงวงจรเกี่ยวกับเสียง (Sound card) ซึ่งมีหน้าที่แปลงข้อมูลดิจิทัลไปเป็นเสียง
  อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ
1) โมเด็ม (Modem) มาจากคำว่า (modulate/demodulate) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ติดต่อกับโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันโมเด็มมีทั้งแบบติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า Internal Modem และ แบบภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า External Modem
2) แผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย (LAN card) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเวิร์คสเตชั้น (Workstation) และเครื่องให้บริการข้อมูล (Server) ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ จำเป็นต้องติดตั้งแลนการ์ด
  การเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
1) ความจำเป็นใช้งาน งานที่ทำจำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่ ? เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์และล้าสมัยเร็ว หากพิจารณาแล้วว่าจำเป็นก็ควรซื้อ แต่ต้องเลือกซื้อเครื่องที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับงาน
2) วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานอะไร ? หลังจากที่ตัดสินใจที่จะซื้อคอมพิวเตอร์แล้ว ควรจะพิจารณาวัตถุประสงค์ที่ต้องการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งาน เช่น นำมาใช้ในงานสำนักงาน นำมาใช้เพื่อความบันเทิง เป็นต้น
3) งบประมาณ มีงบประมาณเท่าไร ? เมื่อทราบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนแล้ว ขั้นต่อมาต้องพิจารณางบประมาณที่จะสามารถจัดซื้อคอมพิวเตอร์ได้ตรงกับความต้องการ และการใช้งานก็จะเกิดประโยชน์สูงสุด
คุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ควรพิจารณา
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ Intel , AMD และ Celeron ส่วนความเร็วของซีพียูควรอยู่ในระดับ 1.4 - 2.4 กิกะเฮิรตซ์ แต่การเลือกใช้ซีพียูใดก็ตามมีผลต่อการเลือกใช้แผงวงจรหลักด้วย เช่น
- ซีพียู AMD Duron , Athlon จะใช้กับแผงวงจรหลักแบบ Socket A
- ซีพียู Intel Pentium , Celeron จะใช้กับแผงวงจรหลักแบบ Socket 370
- ซีพียู Intel Pentium 4 จะใช้กับแผงวงจรหลักแบบ Socket 478
แผงวงจรหลัก เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแผงวงจรทำหน้าที่เป็นตัว เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกซื้อแผงวงจรหลักที่สนับสนุนอุปกรณ์ใหม่ๆ เพราะจะสามารถใช้งานได้นาน และหาอุปกรณ์เพื่อทำการอัพเกรดได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผงวงจรหลักใหม่
แรม ควรเป็นหน่วยความจำแบบ DDR RAM และควรมีขนาดอย่างน้อย 128 เมกะไบต์เป็นอย่างน้อย โดยปัจจุบันมีความเร็ว Bus ตั้งแต่ 66, 100, 133 เมกกะเฮิรตซ์
ฮาร์ดดิสก์ ควรเป็นฮาร์ดดิสก์มาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ ATA โดยมีขนาด 20 - 40 กิกะไบต์เป็นอย่างน้อย
การ์ดแสดงผล ควรสนับสนุนการทำงานแบบสี แบบ VGA , SVGA หรือ XGA 3D เมื่อต้องการใช้งานแบบ 3 มิติ
จอภาพ ควรมีขนาด 15 - 17 นิ้วเป็นอย่างน้อย ซึ่งอาจเลือกใช้แบบ CRT หรือ LCD ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เนื่องจากจอภาพแบบ LCD จะมีราคาสูงกว่าจอภาพแบบ CRT
ซีดีรอมไดร์ฟ ควรมีความเร็วในการอ่านข้อมูลตั้งแต่ 50X ขึ้นไป
อุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรอง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะซื้อควรมีฟล็อบปี้ดิสก์ไดร์ฟ ขนาด 3.5 นิ้ว
การ์ดเสียง ควรเป็นแบบ PCI และควรสนับสนุนเสียงแบบ 3 มิติ ถ้าต้องการใช้งานบันเทิง เช่น การเล่นคาราโอเกะ รวมทั้งมีลำโพงด้วย
อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่าย ถ้าต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตควรจัดหาโมเด็มมาใช้งาน โดยต้องพิจารณาลักษณะการใช้งานด้วย เช่น ถ้าจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายบ่อยควรเลือกใช้โมเด็มแบบภายนอก (External Modem) หรือถ้าการใช้งานไม่จำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายควรเลือกใช้โมเด็มแบบติดตั้งภายใน (Internal Modem) โดยควรมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล 56 bps เป็นอย่างน้อย
เครื่องพิมพ์ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานพิมพ์ที่ต้องการ ได้แก่
- เครื่องพิมพ์แบบ Dot Matrix เหมาะกับงานพิมพ์ที่สามารถทำสำเนาเอกสารได้
- เครื่องพิมพ์แบบ Ink Jet เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการภาพสี งานกราฟิก และควรเลือกรายละเอียดที่เหมาะสมกับงาน รวมถึงควรพิจารณาการใช้งานของตลับหมึก กล่าวคือตลับมึกขาว-ดำควรแยกเป็นอิสระกับตลับหมึกสี เพราะจะช่วยประหยัดเมื่อต้องการพิมพ์งาน ขาว-ดำมากกว่างานสี อย่างไรก็ดีราคาของตลับหมึกก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณา

- เครื่องพิมพ์แบบ Laser Printer เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความละเอียดสูง ต้องการความเร็วในการพิมพ์สูง และเหมาะกับงานพิมพ์ที่เน้นเอกสารที่เป็นข้อความเป็นหลัก
 การเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ควรพิจารณา
จอภาพ ควรมีขนาดใหญ่ เพราะยิ่งมีขนาดใหญ่จะยิ่งดูได้ชัดเจน และควรเป็นจอภาพแบบ TFT ความละเอียดควรกำหนดได้อย่างน้อย 800 x 600 จำนวนสีที่สามารถกำหนดได้อย่างต่ำควรเป็น 16 บิต
แบตเตอร์รี่ ควรใช้ ลิเธียมไอออน เพราะว่ามีอายุการใช้งานนานที่สุดในบรรดาแบตเตอรรี่อื่นๆ
หน่วยความจำ ควรติดตั้งแรมให้มากเท่าที่จะสามารถทำได้ อย่างน้อย 128 เมกะไบต์
ฮาร์ดดิกส์ อย่างน้อย 5 กิกะไบต์ ขึ้นไป เพราะว่าปัจจุบันโปรแกรมส่วนใหญ่มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก
ระบบมัลติมีเดีย หมายถึง ซีดีรอม หรือ เครื่องอ่านแผ่นดีวีดี (DVD Drive) บวกกับ Sound card ส่วนใหญ่กลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานไปแล้วสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีไว้ เนื่องจากซอร์ฟแวร์ส่วนใหญ่จะบันทึกผ่านทางแผ่นซีดี
โมเด็ม ถ้าต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต และต้องการส่งแฟกซ์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์
เน็ตเวิร์คการ์ด สำหรับเชื่อมระบบเครือข่าย ถ้ามีการใช้งานในระบบเครือข่าย (Network)
คอมพิวเตอร์แบบพกพาที่นิยมใช้กันมาก
- โน้ตบุ๊ก เป็นคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ภายในตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย จอภาพ เมาส์ คีย์บอร์ด ลำโพง โดยไม่ต้องต่ออุปกรณ์เพิ่มจากภายนอก ทั้งนี้โน้ตบุ๊กจะมีแบตเตอรี่ช่วยให้สามารถนำเครื่องไปใช้งานนอกสถานที่ได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟ ดังนั้นโน้ตบุ๊กจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางออกไปทำงานนอกอาคารสถานท
- เดสก์โน้ต เป็นคอมพิวเตอร์ที่นำเอาซีพียูของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา แต่จะไม่มีแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งนั่นคือ เดสก์โน้ตจำเป็นต้องเสียบปลั๊กไฟเวลาใช้งาน ดังนั้นเดสก์โน้ต จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานที่มีการเคลื่อนย้ายสถานที่ภายในอาคารเดียวกัน หรือภายในสถานที่ที่มีปลั๊กไฟพร้อมใช้งานตลอดเวลา
- แทบเล็ต พีซี เป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีลักษณะคล้ายโน้ตบุ๊กทั่วไป ต่างกันตรงที่ไม่มีคีย์บอร์ด และเมาส์ที่ใช้ในการป้อนคำสั่ง แต่จะใช้ปากกาสไตรัส (Stylus) เป็นอุปกรณ์ป้อนคำสั่งผ่านทางหน้าจอที่เป็นทัชสกรีน อย่างไรก็ดีแทบเล็ต พีซี จะมีความสามารถโดดเด่นในการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สาย ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการรับ-ส่งข้อมูล ทั้งนี้แทบเล็ต พีซี ได้พัฒนาขึ้นเพื่อการใช้งานนอกสถานที่โดยเฉพาะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น